รุ่น สไปเดอร์ *เครื่องยนต์ เบนซิน เทอร์โบ *ความจุ 3, 994 ซีซี *กำลังสูงสุด 720 แรงม้า ที่ 7, 500 รตน. *แรงบิดสูงสุด 78. 5 กก. -ม. ที่ 5, 500 รตน. *ระบบจ่ายเชื้อเพลิง ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง *ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 7 *ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ขีดสุดความแรงแบบเปิดประทุน แมคลาเรน 720 เอส คือ สปอร์ทตัวแรงประจำค่าย จุดเด่น คือ การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ในแทบทุกส่วนของตัวถัง ท่อไอเสียคู่วางตำแหน่งสูงขึ้นมา ชุดช่องจัดเรียงอากาศบริเวณกันชนด้านหลังจึงมีขนาดใหญ่ ตัวถังเปิดประทุนจะเก็บหลังคาเอาไว้เหนือส่วนเครื่องยนต์ ล้อแมกคู่หน้าขนาด 19 นิ้ว และคู่หลังขนาด 20 นิ้ว อัตราเร่งฉับไวไม่แพ้รุ่นคูเป 720 เอส สไปเดอร์ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 4. 0 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 720 แรงม้า ตามรหัสของตัวรถ ที่ 7, 500 รตน. แรงบิดสูงสุด 78. อัตราเร่ง 0-100 กม. /ชม. ในพริบตาเพียง 2. 9 วินาที และสามารถไต่ถึงช่วงความเร็วสูง 0-200 กม. ในเวลา 7. 9 วินาที ถือเป็นอัตราเร่งของรถสปอร์ทเปิดประทุนที่ฉับไวที่สุดในโลกคันหนึ่งก็ว่าได้ ห้องโดยสารเรียบง่าย เบาะเร้าใจ ภายในห้องโดยสารของ แมคลาเรน 720 เอส สไปเดอร์ เน้นการตกแต่งด้วยวัสดุชั้นดี มีคุณภาพสูงสมกับราคาของตัวรถ แผงมาตรวัดแบบดิจิทอล พวงมาลัยหุ้มวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ จอแสดงผลตรงกลางมีทรงยาวในแนวตั้งคล้ายกับแทบเลท เบาะนั่งทรงสปอร์ทโอบกระชับสรีระ สมกับการเป็นรถสปอร์ทสมรรถนะสูง รู้หรือไม่?
720/7, 500 740/8, 400 670/8, 000 แรงบิดสูงสุด (กก. /รตน. ) 78. 5/5, 500 70. 4/5, 500 77. 5/3, 000 ระบบขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หลัง 4 อัตราเร่ง 0-100 กม. (วินาที) 2. 9 3. 0 อัตราเร่ง 0-200 กม. (วินาที) 7. 9 9. 0 8. 7 ระบบช่วยเลี้ยวล้อคู่หลัง ------------------------------ เรื่องโดย: ภูเขม หน่อสวรรค์ ภาพโดย: บริษัทผู้ผลิต นิตยสาร FORMULA ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2562 คอลัมน์: รถใหม่ในประเทศ ลิงค์สำหรับแชร์:
ยลโฉมก่อนใคร! McLaren 720s Spider บอกเล่าอย่างเหนือชั้น ก้าวล้ำเหนือคู่แข่ง เปิดตัวแมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ รุ่นที่สองของซูเปอร์ซีรีส์ อย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมด้วยการจัดแสดงรถยนต์แมคลาเรน 570เอส สไปเดอร์ และโครงรถแมคลาเรน สุดยอดเทคโนโลยีอันน่าทึ่งระดับตำนานรถแข่ง เชื่อมั่นทั้งสามคันจะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้เข้าชมงานและผู้ชื่นชอบรถซูเปอร์คาร์ ในงานรถประจำปีอันยิ่งใหญ่ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ประจำปี 2562 ณ บูธ A19/2 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562 แมคลาเรน 720เอส ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 29. 5 ล้านบาท จัดเป็นรถเปิดประทุนบรรจุดีเอ็นเอซูเปอร์ซีรีส์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่เคยผลิตมา ประกอบด้วยเครื่องยนต์วี8 ขนาด 4 ลิตร ทวินเทอร์โบ และเป็นรถเปิดประทุนโมเดลแรกของแมคลาเรนที่นำเสนอลักษณะเด่นการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในโครงสร้างช่วงบน ทำให้น้ำหนักเบาลงอย่างมากที่สุดเพียง 1, 332 กิโลกรัม สร้างประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ขับด้วยขุมพลัง 720 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร และยังสามารถเลือกโหมดการแสดงผลการขับแบบสะดวกสบาย (Comfort) สปอร์ต (Sport) และสนามแข่ง (Track) ด้วยความเร็วสูงสุด 341 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในใน 2.
1. รถสปอร์ทของ แมคลาเรน ขณะนี้มีหลากหลายรุ่น แยกแยะด้วยตัวเลขได้แก่ 540, 570, 650, 675 และ 720 พร้อมทางเลือกตัวถังแบบคูเป และเปิดประทุน ขณะบางรุ่นจะมีชื่อต่อท้ายว่า แอลที (ย่อมาจาก ลองเทล) ขณะที่รุ่น 720 ถือเป็นตัวทอพของสายพันธุ์ก็ว่าได้ หากไม่นับรุ่นตัวแรงระดับไฮเพอร์คาร์อย่าง เซนนา 2. การออกแบบตัวถังอย่างพิถีพิถัน ทำให้น้ำหนักของตัวรถใน 720 เอส สไปเดอร์ ไม่แตกต่างจากรุ่นคูเปมากนัก ชุดกลไกเปิด/ปิดประทุนหลังคาใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา สามารถเก็บส่วนหลังคาเอาไว้เหนือเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้อัตราเร่งของรถรุ่นนี้ทำได้เทียบเท่ารุ่นคูเป นับเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในรถสปอร์ทเจ้าอื่น 3.
9 วินาที แมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ เป็นรถเปิดประทุน ที่มีความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และเร้าใจ และจะสร้างปรากฏการณ์การขับรถให้ก้าวล้ำสู่อีกระดับปรากฏการณ์ใหม่ของรถซูเปอร์คาร์อย่างแท้จริง ด้วยน้ำหนักที่เบา ประสิทธิภาพอันทรงพลัง และนวัตกรรมการออกแบบอย่างเหนือชั้น แมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ ในซูเปอร์ซีรีส์นี้จะเผยให้เห็นการใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างน่าทึ่งในการสรรสร้างนวัตกรรมที่จะปฏิวัติวงการยานยนต์ซูเปอร์คาร์อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ยังมี แมคลาเรน 570เอส สไปเดอร์ เป็นอีกดาวเด่นในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ราคาจัดจำหน่ายเริ่มต้นที่ 26. 5 ล้านบาท เป็นโมเดลสปอร์ตซีรีส์ที่กวาดมาแล้วหลากหลายรางวัล นำเสนอคุณลักษณะเด่น เครื่องยนต์วี8 ทวินเทอร์โบชาร์จ ความจุ 3. 8 ลิตร ทรงพลัง 570 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร เร่งความเร็วสูงสุดที่ 328 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3. 2 วินาที โครงคาร์บอนโมโนเซลทูสร้างอัตราส่วนต่อน้ำหนักอันน่าทึ่ง สร้างความเร้าใจในการขับทั้งบนท้องถนนปกติและบนสนามแข่ง หลังคาแข็งเปิดปิด กระจกบังลมเคลือบเงา และระบบพวงมาลัยไฮดรอลิกไฟฟ้ายิ่งสร้างความเร้าใจให้กับการขับเปิดประทุน AROUND MAGAZINE นำเสนอสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวด้วยมุมมองใหม่ เพิ่มทางเลือกแรงบันดาลใจ ในการใช้ชีวิตสำหรับคนเมือง เทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ต่างๆ เสมือนคู่มือการใช้ชีวิตในเมืองหลวงที่ศิวิไลซ์ให้รื่นรมย์และสนุกกับการตามติดเทรนด์ สุดทันสมัยอยู่ตลอดเวลา