การ หยุดยาคุม แบบปราศจากความเข้าใจ อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ ที่ร้ายแรง ตามมาได้ ต้องหยุดเมื่อไหร่? อย่างไร? มาดูคำตอบกันเลย!
ยาฉีดคุมกำเนิด หนึ่งในวิธีคุ้มกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันได้นาน 1-3 เดือน ขึ้นกับชนิดของยา เผยแพร่ครั้งแรก 11 ก. ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ. ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 23 ม. 2020 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที เมื่อตัดสินใจจะมีเพศสัมพันธ์ อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยและโอกาสในการตั้งครรภ์ ซึ่งปัจจุบันมีวิธีป้องกันหลายแบบ ได้แก่ ถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด และยาฉีดคุมกำเนิด โดยในบทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับยาฉีดคุมกำเนิดว่า มีการทำงานอย่างไร และมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากน้อยเพียงใด ยาฉีดคุมกำเนิด (Contraceptive Injections) คืออะไร? ยาฉีดคุมกำเนิดเป็นวิธีคุมกำเนิดชั่วคราวที่เหมาะสมสำหรับสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มีบุตรแล้ว และต้องการเว้นช่วงการมีบุตร แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วย ฮอร์โมนเอสโตรเจน ( Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) และยาฉีดคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างเดียว แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 0 บาท ลดสูงสุด 25650 บาท จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เริ่มต้นฉีดเข็มแรก ภายใน 5 วันแรกของรอบประจำเดือน และฉีดติดต่อกันไปทุกๆ 12 สัปดาห์หรือ 84 วัน ในหญิงหลังคลอดอาจเริ่มต้นฉีดยานี้ได้ภายหลังคลอดก่อนคนไข้จะกลับบ้าน 2. การทำงานของดีเอ็มพีเอ ยาชนิดนี้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้โดยออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับฤทธิ์ของยาเม็ดคุมกำเนิดดังกล่าวมาแล้วแต่มีประสิทธิภาพสูงมาก 3. ผลของยาดีเอ็มพีเอต่อประจำเดือน ผู้ที่ใช้ยานี้จะมีระบบประจำเดือนผิดไปจากเดิมจนยากที่จะทำนายล่วงหน้าได้ แต่พอสรุปได้ว่าในระยะแรกที่ใช้ยานี้ ผู้ใช้มักมีเลือดออกกะปริบกะปรอย และภายหลังใช้ยานี้ได้ประมาณ 1 ปี ประจำเดือนมักจะขาดไป DMPA 1. ยาฉีดคุมกำเนิดชนิด Depomedroxyprogesterone acetate, DMPA ได้นำมาใช้ครั้งแรก ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี พ. 2503 โดยใช้ในการรักษาการแท้งเป็นนิสัย (habitual abortion) และ Endometriosis ต่อมาประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 90 ประเทศ ได้นำมาใช้ เพื่อคุมกำเนิด 2. สำหรับประเทศไทย ได้นำมาใช้ตั้งแต่ปี พ. 2508 และเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปของสตรีไทย ประสิทธิภาพการคุมกำเนิด และภาวะแทรกซ้อนที่พบในคนไทย ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยา ความดันโลหิต ความเข้มของเลือด ผลต่อสุขภาพจิต ความรู้สึกทางเพศ ผลต่อการทำงานของตับ และต่อมไทรอยด์ ตลอดจนการเกิดมะเร็งของเต้านม และปากมดลูก เป็นต้น 3.
ปัจจุบันยาฉีดคุมกำเนิดนั้น ฉีดครั้งหนึ่งมีฤทธิ์คุมกำเนิดได้ 3 เดือนโดยจะฉีดบริเวณสะโพก เมื่อฉีดแล้วตัวยาจะอยู่ที่สะโพก และค่อยๆ ขับฮอร์โมนออกมา 1. หลักการพิจารณาเริ่มฉีดยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิดก็เหมือนกับยากิน คือ ต้องเริ่มภายใน 5 วันแรกของรอบเดือนก่อนที่รังไข่จะทำงาน ถ้ารังไข่ทำงานแล้วจึงฉีด มีโอกาสท้องได้เช่นกัน 2. หลังจากฉีดยาคุมกำเนิด รอบเดือนจะผิดปกติเกือบทุกคน รอบเดือนจะมาไม่เหมือนเดิม ระยะแรกจะมากะปริดกะปรอย ไม่แน่นอน ฉีดนานๆ หลายเข็มเข้า ประจำเดือนจะหายไปเลย แต่ถ้าหยุดฉีดไประยะหนึ่ง ฮอร์โมนจากธรรมชาติก็เริ่มใหม่ ประจำเดือนก็จะมาปกติ 3.